วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

#สัปดาห์ที่4 : เตือนภัย'ข้าวปนพิษ'ตาย-ทำลายประสาท

            หลังการเผยแพร่ข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวว่าใช้สารเคมีจำนวนมหาศาล เพื่อรมควันข้าวที่เก็บไว้ในโกดัง จนสร้างความหวาดผวาให้แก่ผู้บริโภคนั้น กรมการค้าภายในได้สุ่มเก็บตัวอย่างข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าว ที่บรรจุถุงวางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป รวมถึงห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ เพื่อส่งให้ห้องปฏิบัติการตรวจสอบทางเคมี จากนั้นได้แถลงข่าวว่าไม่มีสารฟอสฟินตกค้างจากการรมควันป้องกันแมลงและมอด!!

             อย่างไรก็ตาม เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคดูเหมือนยังไม่มั่นใจในการพิสูจน์ข้างต้น เนื่องจากไม่ได้ตรวจละเอียดข้าวทุกถุง ยิ่งไปกว่านั้นแม้สารตกค้างจะไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด แต่หากกินต่อเนื่องสารเคมีพิษจะค่อยๆ สะสมอยู่ในร่างกายระยะยาว อาจทำให้เกิดมะเร็งตับ ระบบประสาทผิดปกติ ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ ฯลฯ

              ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีเกษตรให้ข้อมูลว่า สารเคมีที่นิยมใช้รมข้าวเพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืชในไทย อยู่มี 3 ชนิด คือ "อลูมิเนียมฟอสไฟด์" (Aluminium Phosphide) "เมทิลโบรไมด์" (Methyl bromide) และ "คลอโรพิคริน"  (Chloropicrin) โดย อลูมิเนียมฟอสไฟด์ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "ฟอสฟิน" เป็นสารเคมีใช้ผสมกับอาหารเพื่อฆ่าหนู หรือนำมาใช้รมควันพืชผลทางการเกษตรฆ่าแมลง ฆ่าเชื้อรา และใช้อบรมควันในเรือพาณิชย์ที่ใช้ขนส่งอาหารต่างๆ เป็นหนึ่งในสารเคมีที่มีพิษสูงมาก ทำลายระบบหลอดเลือดและหัวใจและอวัยวะภายใน ทำให้หมดสติหรือเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว เคยให้สัตว์ทดลองสูดดมแล้วตายทันทีถึงร้อยละ 50

    ส่วน "เมทิลโบรไมด์" มีอันตรายไม่น้อยกว่าตัวแรก พิษร้ายทำลายอวัยวะภายใน ปอด หากได้รับปริมาณมาก อาจทำให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว หรือส่งผลให้ระบบประสาทเสียหายแบบถาวร งานวิชาการชี้ชัดว่าสารเคมีตัวนี้มีฤทธิ์ทำลายสารพันธุกรรมมนุษย์และสัตว์ นักวิจัยสหรัฐอเมริกาทำวิจัยโดยติดตามเกษตรกรและคู่สมรส 7,814 คน ช่วงระหว่างปี 2536-2550 พบว่า ผู้ใช้เมทิลโบรไมด์มีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าคนที่ไม่ได้สัมผัสสารตัวนี้สูงถึง 1.4-3 เท่า ยิ่งใช้มากยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังมีมติให้ยกเลิกใช้สารตัวนี้เพราะทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศส่งผลให้โลกร้อน 
 สำหรับ "คลอโรพิคริน" มีบันทึกว่าเป็นหนึ่งในสารพิษที่เคยใช้เป็นอาวุธเคมีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 บางครั้งใช้ผสมในแก๊สน้ำตาสำหรับปราบจลาจล ด้วยฤทธิ์ร้ายแรงทำให้สามารถฆ่าแมลงที่มาทำลายผลิตผลเกษตร เมืองไทยนิยมใช้ร่วมกับเมทิลโบรไมด์ สารเคมีตัวนี้จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ทางการหายใจ กิน และดูดซึมเข้าทางผิวหนัง หากใครสัมผัสใกล้ชิดจะปวดแสบดวงตาอย่างมาก บางกรณีกระจกตาลอก ปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วง ฯลฯ หากสูดดมเข้าไปแค่เพียง 119 ส่วนในล้านส่วนในเวลา 30 นาที อาจทำให้เสียชีวิตได้จากภาวะปอดบวมน้ำ  ถ้าไม่เสียชีวิตจะมีอาการทางระบบประสาทและกล้ามเนื้อนานต่อเนื่องหลายสิบวัน

ที่มา: komchadluek
ความคิดเห็น:ถ้าไม่ใส่สารเคมีรมข้าว มอดก็จะเต็มไปหมด ดังนั้นควรซาวหลายๆครั้งเพื่อป้องกันสารเคมี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น